10 บทเรียนการลงทุนในวันหุ้นตก COVID-19 ระบาด
หลายคนคงรู้สึกใจหายไม่น้อยกับสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้นที่ลงแรงเกินรับไหว รวมถึงสถานการณ์ COVID-19 ที่มองไปทางไหนก็เห็นแต่ความซบเซา
ถ้าจะมองเรื่องนี้เป็นฝันร้ายก็คงได้ แต่อีกมุมหนึ่งบางทีอาจเป็นบทเรียนแสนล้ำค่าเพื่อนำไปต่อยอดในอนาคต ซึ่งนี่ 10 ข้อคิดบันทึกส่วนตัวที่ค้นพบและเริ่มเข้าใจในวันที่หลายเรื่องเริ่มวิกฤต เลยอยากนำมาแชร์ให้กับทุกคนครับ
1. โลกการลงทุนไม่มีอะไรแน่นอน
ถ้าจำกันได้เมื่อต้นปี นักวิเคราะห์ยังวางเป้า SET Index อยู่แถว 1,700 อยู่เลย ซึ่งใครจะเชื่อว่ายังไม่พ้นไตรมาสแรก หุ้นไทยจะลงไปแตะ 900 จุด
ทั่วโลกเจอกับสารพัดความเสี่ยง มีเรื่องออกมาเซอร์ไพรส์มากมาย เช่น การแพร่ระบาด COVID-19, สงครามราคาน้ำมัน, Fed ลดดอกเบี้ยฉุกเฉิน 2 ครั้งใน 2 สัปดาห์ ทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิดทั้งนั้น
2. ไม่มีใครรู้ว่าจุดต่ำสุดอยู่ตรงไหน
หุ้นไหลลงเรื่อยๆ จนถูกมากๆ แล้ว แต่ถามว่านี่คือจุดต่ำสุดหรือยัง ? คงไม่มีใครตอบได้ เพราะก่อนหน้านี้ก็คงไม่มีใครจินตนาการเหมือนกันว่า SET Index จะลงมาถึงจุดนี้อีกครั้ง
3. โชคดีแล้วที่เจอวิกฤตก่อน
การเจอวิกฤตตั้งแต่เริ่มลงทุนแรกๆ จะนับว่าเป็นความโชคดีก็ได้ เพราะตอนนี้พอร์ตเรายังเล็กมาก แม้จะขาดทุนหมดตัว ใช้เวลาไม่นานก็หาใหม่ได้
ที่สำคัญยังเป็นเหมือนการตบหน้าเราแรงๆ ว่าชะล่าใจในการลงทุน เรามีโอกาสติดลบได้เสมอถ้าไม่ระวัง ซึ่งเป็นภูมิคุ้มกันที่ดีมากในอนาคต
4. กระจายความเสี่ยงเป็นสิ่งที่ต้องทำ
แม้ตอนนี้หุ้นจะรูด แต่ตลาดเงินไม่กระทบ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราต้องกระจายความเสี่ยงให้ครอบคลุมหลากหลายประเภทสินทรัพย์ ทั้ง เงินฝาก ตราสารหนี้ หุ้น กองทุน ทองคำ ประกันชีวิต ฯลฯ เพื่อลดความเสียหายจากสิ่งที่ไม่คาดคิด
5. ไม่ต้องคาดเดาตลาด ถ้าลงทุนแบบมีวินัย
เป็นเรื่องจริงที่เราไม่สามารถจับจังหวะลงทุนได้ถูกต้องทุกครั้ง เมื่อตลาดหุ้นเกิดจากการตัดสินใจร่วมกันของคนนับล้าน ดังนั้น สิ่งที่ทำได้คือการลงทุนแบบมีวินัย ถัวเฉลี่ย (DCA) ไปเรื่อยๆ และให้เวลาเป็นเครื่องมือทำกำไร
6. มองผลตอบแทนระยะยาว
แม้ในระยะสั้นหุ้นจะมีความผันผวนมาก แต่จากสถิติที่ผ่านมา บอกเราว่าในระยะยาวหุ้นยังสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงอยู่
7. โอกาสเป็นของคนที่พร้อม
ถามนี่ตอนนี้เป็นโอกาสของการเข้าไปลงทุนไหม จะว่าใช่ก็ใช่ เพียงแต่เราต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่าพร้อมหรือเปล่า ไม่ได้หมายถึงแค่ความรู้ แต่รวมถึงเงินทุนด้วย
8. อย่าหนีการลงทุน แต่จงทำต่อไปเรื่อยๆ
ถึงตลาดจะแย่ จะโหดร้ายแค่ไหน เราก็ไม่ควรหยุดการลงทุน อาจจะดึงเงินบางส่วนออกมาพักไว้ก่อนได้ แต่ควรติดตามข่าวสารอยู่เสมอ เพราะแม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่การไม่ลงทุนเลยเสี่ยงกว่า เนื่องจากเงินเฟ้อจะทำให้มูลค่าของเงินที่เราถืออยู่ลดลงเรื่อยๆ
9 ในวิกฤตมีโอกาส แต่ก็มีหายนะซ่อนอยู่เช่นกัน
อย่างที่บอก คือ ไม่มีใครรู้ว่าจุดต่ำสุดอยู่ตรงไหน เพราะฉะนั้น อย่ามองแค่โอกาส ลองประเมินความเสี่ยงต่างๆ อย่างรอบครอบก่อนตัดสินใจด้วย
10. เงินสำรองฉุกเฉินสำคัญขึ้นมาทันที
เราถูกสอนกันมาเสมอว่าสิ่งแรกที่ต้องมีในการวางแผนการเงิน คือ เงินสำรองฉุกเฉิน ประมาณ 3-6 เท่าของรายได้ แต่มักจะเป็นสิ่งแรกๆ ที่หลายคนละเลย
ซึ่งเหตุการณ์ในตอนนี้ ทำให้เราเริ่มเห็นความสำคัญของเงินฉุกขึ้นมาทันที เพราะเป็นสิ่งที่ช่วยพยุงตัวเองให้ผ่านวิกฤตได้อย่างสบายใจขึ้น ตรงกันข้ามหากตอนนี้ไม่มีเงินสำรองไว้เลย คงจะรู้สึกเครียดมากๆ กับความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้น
สุดท้ายขอย้ำว่านี่เป็นความเห็นส่วนตัว สกัดออกมาเป็น 10 บทเรียนการลงทุนของคนๆ นึงเท่านั้นครับ ทุกอย่างไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว
ติดตามบทความอื่น ๆ อีกมากมายได้ที่ www.finspace.co
ติดตามเรื่องราวการเงินที่จะมาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เป็นคุณก่อนใครได้ที่
Facebook : FinSpace
LINE Official : http://bit.ly/2qL8S48
Twitter : http://bit.ly/2keFfVD
Instagram : http://bit.ly/2ktv2o7
Blockdit : https://bit.ly/37EWqmb
อ่านอะไรต่อดี…
