BCAP Dynamic Wealth Portfolio ปรับพอร์ตให้ยืดหยุ่น พร้อมลงทุนได้ทุกสถานการณ์
![BCAP Dynamic Wealth Portfolio](https://www.finspace.co/wp-content/uploads/2022/10/BCAP-Dynamic-Wealth-Portfolio.jpg)
เชื่อว่าเพื่อน ๆ หลาย ๆ คนที่กำลังลงทุนอยู่ในสินทรัพย์ต่าง ๆ ในตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นตราสารหนี้ หุ้น หรือกองทุน มีความผันผวนมาก ยากต่อการตัดสินใจลงทุน
ยิ่งไปกว่านั้น สำหรับมือใหม่ การลงทุนในตลาดที่มีความผันผวนสูง และมีแนวโน้มเข้าสู่ขาลง เป็นสิ่งที่ทำให้มือใหม่ไม่กล้าที่จะเริ่มต้นลงทุน
แต่ในวันนี้ FinSpace เจอพอร์ตการลงทุนที่น่าสนใจมาฝากเพื่อน ๆ ทั้งมือใหม่และคนที่มีประสบการณ์ แต่ไม่มีเวลาศึกษาลงทุน นั่นคือ BCAP Dynamic Wealth Portfolio ที่มีมือโปรช่วยปรับพอร์ตให้ยืดหยุ่น และลงทุนได้ทุกสถานการณ์ ไม่ว่าตลาดจะอยู่ในช่วงไหน มีอะไรที่น่าสนใจ มาดูไปพร้อม ๆ กันได้เลยครับ
ทำความรู้จัก บลจ. BCAP
![ทำความรู้จัก บลจ. BCAP](https://www.finspace.co/wp-content/uploads/2022/10/ทำความรู้จัก-บลจ.-BCAP.jpg)
BCAP หรือ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บางกอกแคปปิตอล จำกัด เป็นอีกหนึ่ง บลจ. ในเครือธนาคารกรุงเทพ และเป็นบริษัทลูกของบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด(มหาชน) ที่มีประสบการณ์บริหารเงินลงทุนมายาวนานกว่า 20 ปี
โดยกองทุนของ บลจ.มุ่งเน้นการบริหารแบบ Active Management คัดสรรโอกาสการลงทุนจากทั่วโลก โดยผ่านกองทุน ETF เป็นหลัก ตามสโลแกน thinkGLOBAL
กลยุทธ์การลงทุนและสินทรัพย์ใน Portfolio
![กลยุทธ์การลงทุนและสินทรัพย์ใน Portfolio](https://www.finspace.co/wp-content/uploads/2022/10/กลยุทธ์การลงทุนและสินทรัพย์ใน-Portfolio.jpg)
สำหรับกลยุทธ์ที่ BCAP Dynamic Wealth Portfolio ใช้ จะเน้นไปที่การบริหารความเสี่ยง และเพิ่มความยืดหยุ่นในการสร้างโอกาสลงทุนด้วยวิธี Tactical Asset Allocation ซึ่งเน้นการปรับพอร์ตให้ผลตอบแทนและความเสี่ยงเหมาะสมกับแนวโน้มของเศรษฐกิจในระยะสั้น
โดยสินทรัพย์ที่กองทุนนี้ลงทุน มีอยู่ด้วยกัน 5 ประเภท คือ
1.หุ้น (สัดส่วนรวมประมาณ 35%) สำหรับสร้างผลตอบแทนในระยะยาว โดยลงทุนทั้งหุ้นไทยและหุ้นต่างประเทศผ่าน 2 กองทุน ได้แก่
- BCAP-TEQ (หุ้นไทย) 10%
เป็นกองทุนที่ลงทุนในหุ้นไทย ทั้งหุ้นที่จดทะเบียนใน SET และ/หรือ mai ไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าสินทรัพย์ลงทุน (NAV)
- BCAP-GE (หุ้นโลก) 25%
ลงทุนในหุ้นต่างประเทศทั่วโลกผ่านหน่วยลงทุนของกองทุนรวมหุ้นต่างประเทศ โดยลงทุนตั้งแต่ 2 กองทุนขึ้นไป โดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV และสัดส่วนการลงทุนแต่ละกองทุนลงได้ไม่เกิน 79% ของ NAV ซึ่งกองทุนปลายทางจะกระจายลงทุนหรือเน้นลงทุนเฉพาะประเทศในบางช่วง
2.ตราสารหนี้ (สัดส่วนรวม 20%) สำหรับสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ โดยลงทุนทั้งตราสารหนี้ในไทยและต่างประเทศผ่าน 2 กองทุน ได้แก่
- BCAP-MFIX (ตราสารหนี้ไทย) 10%
ลงทุนในเงินฝากหรือตราสารหนี้เทียบเท่าเงินฝาก ตราสารหนี้ภาครัฐและเอกชนของไทย ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือในระดับ Investment grade โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV
- BCAP-GFIA (ตราสารหนี้ต่างประเทศ) 10%
ลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศทั่วโลกผ่านหน่วยลงทุน โดยลงทุนตั้งแต่ 2 กองทุนขึ้นไป โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV และสัดส่วนการลงทุนแต่ละกองทุนลงได้ไม่เกิน 79% ของ NAV
3.การลงทุนทางเลือก (Alternative Investment) (สัดส่วนรวม 10%) เน้นการกระจายความเสี่ยง เช่น ทองคำ อสังหาริมทรัพย์ผ่าน 2 กองทุน ได้แก่
- BCAP-GOLD 5%
ลงทุนในทองคำผ่านกองทุนรวมทองคำต่างประเทศ และ/หรือผ่าน ETF ต่างประเทศ ตั้งแต่ 2 กองทุนขึ้นไป โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV และสัดส่วนการลงทุนแต่ละกองทุนลงได้ไม่เกิน 79% ของ NAV
- BCAP-GPROP (REITs&Infra ในไทยและทั่วโลก) 5%
ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนอสังหาริมทรัพย์ และ/หรือหน่วยลงทุนของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) และ REITs ทั้งทางตรงและทางอ้อม ทั้งในและต่างประเทศ ตั้งแต่ 2 กองทุนขึ้นไป โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV และสัดส่วนการลงทุนแต่ละกองทุนลงได้ไม่เกิน 79% ของ NAV
4.Tactical Allocation (สัดส่วนรวม 30%) สำหรับสร้างความยืดหยุ่นและปรับกลยุทธ์ให้เหมาะกับสภาวะตลาด โดยลงทุนในกองทุนรวมผสม ได้แก่
- BCAP-GTAC 30%
กระจายลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ทั้งในและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ตราสารหนี้ ตราสารทุน ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน เงินฝาก กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์
5.Satellite (สัดส่วนรวม 5%) สำหรับโอกาสการลงทุนอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น การลงทุนระยะสั้น หรือ การลงทุนตามธีม Thematic Investment ได้แก่
- BCAP-CTECH 5%
ลงทุนในหุ้นจีนที่ทำธุรกิจเทคโนโลยี โดยกระจายลงทุนตั้งแต่ 2 กองทุนขึ้นไป โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV และสัดส่วนการลงทุนแต่ละกองทุนลงได้ไม่เกิน 79% ของ NAV
สำหรับผลตอบแทนและความเสี่ยง ทาง บลจ. ได้มีการทดสอบย้อนหลัง จะได้
- ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปี เป็น 6.02%
- ความผันผวนเฉลี่ยต่อปี เป็น 7.21%
- Maximum Drawdown เป็น 19.61%
- Annualized Sharpe Ratio เป็น 0.5263
*ข้อมูล ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2565
กลยุทธ์ปรับพอร์ตของ BCAP
![กลยุทธ์ปรับพอร์ตของ BCAP](https://www.finspace.co/wp-content/uploads/2022/10/กลยุทธ์ปรับพอร์ตของ-BCAP.jpg)
ในการลงทุนให้ได้ผลตอบแทนและความเสี่ยงที่เหมาะสมกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทาง BCAP มีเคล็ดลับในการปรับพอร์ตโดยเน้นไปที่ความเร็ว และความยืดหยุ่น โดยมี 3 ปัจจัยในการประกอบการตัดสินใจปรับพอร์ต คือ
1.เศรษฐกิจ
เป็นการนำนโยบายทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอัตราเงินเฟ้อ การเติบโตของเศรษฐกิจ นโยบายการเงินและการคลังมาใช้ในการพิจารณาลงทุนสินทรัพย์ลงทุนที่ได้รับประโยชน์ ซึ่งจะมีการวิเคราะห์ทุก 1-2 ปี
2.มูลค่าพื้นฐาน
นอกจากปัจจัยเศรษฐกิจแล้ว การประเมินมูลค่าของกิจการที่ลงทุนเพื่อให้ได้หุ้นที่ใช่เข้าพอร์ต เป็นอีกปัจจัยที่สำคัญที่ไม่ควรมองข้าม โดยมืออาชีพจาก BCAP จะใช้อัตราส่วนทางการเงินที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น P/E Ratio, P/BV Ratio หรือ Earning Yield Gap มาพิจารณา โดยจะนำปัจจัยนี้มาประกอบการวิเคราะห์ทุกครึ่งปี – 1 ปี
3.อารมณ์ของตลาด
อีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาหุ้นปรับขึ้นหรือลงอย่างมีนัยสำคัญ นั่นคือ ข่าวสาร มุมมองของนักลงทุนต่อสินทรัพย์ลงทุนนั้น ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่มีผลต่อ Fund Flow ในการลงทุน โดยวิเคราะห์กลยุทธ์ดังกล่าวทุกไตรมาส – 1 ปี
สรุปข้อมูล BCAP Dynamic Wealth Portfolio
![สรุปข้อมูล BCAP Dynamic Wealth Portfolio](https://www.finspace.co/wp-content/uploads/2022/10/สรุปข้อมูล-BCAP-Dynamic-Wealth-Portfolio.jpg)
ได้เห็นทั้งหน้าตาของ Portfolio ผลทดสอบย้อนหลัง เคล็ดลับในการ Rebalance พอร์ตแล้ว เพื่อน ๆ อาจสงสัยว่า พอร์ตนี้เหมาะกับเราหรือไม่ ต้องใช้เงินลงทุนเท่าไหร่ เราขอสรุปมาให้แบบกระชับ 4 ประเด็นให้เห็นภาพมากขึ้น
1.ความเสี่ยง
พอร์ตลงทุนดังกล่าวถูกจัดอยู่ในความเสี่ยงระดับ 5 ซึ่งเหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลางค่อนข้างสูง
2.เงินลงทุนขั้นต่ำ
สำหรับเงินลงทุนขั้นต่ำในครั้งแรกอยู่ที่ 500,000 บาท ครั้งถัดไป 50,000 บาท แต่สำหรับคนที่ต้องการลงทุนแบบ DCA ลงทุนขั้นต่ำที่ 10,000 บาทต่อเดือน
3.ระยะเวลาในการลงทุน
Portfolio ดังกล่าวเหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีระยะเวลาในการลงทุนมากกว่า 1 ปีขึ้นไป
4.มีการกระจายลงทุนที่หลากหลาย
พอร์ตดังกล่าวข้างต้น นอกจากจะกระจายลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์แล้ว ยังมีการปรับพอร์ตให้เข้ากับสภาวะตลาดในแต่ละช่วงอีกด้วย
![BCAP FINNO](https://www.finspace.co/wp-content/uploads/2022/10/BCAP-FINNO.jpg)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-026-5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT”
หรือ สำหรับใครที่ต้องการศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมของพอร์ตลงทุน BCAP Dynamic Wealth Portfolio สามารถศึกษาได้ที่ www.bcap.co.th หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-618-1599 และ Facebook Page : BCAP Asset
สนใจลงทุน BCAP Dynamic Wealth Portfolio คลิก
https://finno.me/FHPFireMakerFinSpaceBCAP
หมายเหตุ : ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
ติดตามบทความอื่น ๆ อีกมากมายได้ที่ www.finspace.co
ติดตามเรื่องราวการเงินที่จะมาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เป็นคุณก่อนใครได้ที่
Facebook : FinSpace
LINE Official : http://bit.ly/2qL8S48
Twitter : http://bit.ly/2keFfVD
Instagram : http://bit.ly/2ktv2o7
Blockdit : https://bit.ly/37EWqmb
กลุ่มความรู้นักลงทุน: http://bit.ly/3clAwZ2
กลุ่มพัฒนาตัวเอง: http://bit.ly/3ejPXnk
กลุ่มคริปโต บิทคอยน์ NFT: https://bit.ly/3J8LS1W