เมื่อโลกวุ่นวายจาก “ภัยไซเบอร์” ถึงเวลาลงทุนในความปลอดภัย พร้อมประหยัดภาษี กับกองทุน LHCYBERRMF
เมื่อโลกวุ่นวายจาก “ภัยไซเบอร์” ถึงเวลาลงทุนในความปลอดภัย พร้อมประหยัดภาษี กับกองทุน LHCYBERRMF

ตั้งแต่โลกมีอินเทอร์เน็ต จนถึงวันที่ AI ขับเคลื่อนแทบทุกอย่าง ส่งผลให้เศรษฐกิจดิจิทัลเติบโตก้าวกระโดด
แต่ในอีกด้าน ภัยไซเบอร์ก็พัฒนาตาม และมีทีท่ารุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ชนิดที่เรียกว่า หากถูกโจมตีเกิดข้อมูลองค์กรรั่วไหล อาจสร้างความเสียหายมหาศาล ทั้งชื่อเสียง รายได้ และความเชื่อมั่น
ทำให้องค์กรต่างๆ ต้องการ ความปลอดภัยด้านไซเบอร์ (Cybersecurity) ซึ่งโอกาสการลงทุนรวมอยู่ในกองทุน LHCYBERRMF (มีความเสี่ยงระดับ 6)
ทำไมความ Cybersecurity ถึงสำคัญมากในยุคนี้?

จากข้อมูล 79% ของการโจมตีในปี 2024 เป็นแบบ “ไร้มัลแวร์” ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 40% ในปี 2019 และใช้เวลาเฉลี่ยเพียง 48 นาทีในการเจาะระบบเข้าองค์กรเพื่อสร้างความเสียหาย สะท้อนถึงวิธีและการหลบเลี่ยงการตรวจจับได้ยากขึ้น (Source: First Trust Nasdaq Cybersecurity ETF)
ความไม่ปลอดภัยทางไซเบอร์จึงถือเป็นภัยคุกคามที่ “ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก” ที่ไม่ใช่ด้านสิ่งแวดล้อม ทั้งในมุมมองมองระยะ 2 ปี และ 10 ปี ตามรายงานของ The World Economic Forum
และตามการคาดการณ์ของ Statista Research ความเสียหายจากอาชญากรรมไซเบอร์ทั่วโลกสูงถึง 15.63 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2029
ศึกสมรภูมิที่ขับเคลื่อนด้วย AI

อย่างที่เกริ่นไปก่อนหน้านี้ว่า “เทคโนโลยี AI” ทำให้ภัยไซเบอร์พัฒนาความซับซ้อนและขยายเป็นวงกว้างมากขึ้น
องค์กรจึงจำเป็นต้องวิวัฒนาการการป้องกัน โดยการสร้างความยืดหยุ่นและการนำเทคโนโลยีมาใช้ในเชิงรุกมากขึ้น เช่น
- Cyber Resilience มุ่งเน้นการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและลดผลกระทบเมื่อถูกโจมตี
- Zero Trust Architecture ใช้หลักการ “ไม่เชื่อใคร ตรวจสอบเสมอ” เพื่อป้องกันการเข้าถึงและลดความเสียหายจากการบุกรุก
- AI in Defense ใช้ AI และ Machine Learning เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามโดยอัตโนมัติ
เมื่อมีภัยคุกคาม ย่อมมีโอกาสเติบโตใน Cybersecurity

ในปี 2025 นี้ องค์กรต่างๆ ได้มีการลงทุนด้านความมั่นคง ซึ่งเน้นไปที่เทคโนโลยีหลายด้าน เพื่อรับมือภัยคุกคามที่ซับซ้อน
คาดการณ์การเติบโตของตลาดความปลอดภัยทางไซเบอร์อยู่ที่ 12-15% มีมูลค่าตลาดประมาณ 212 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และอาจเติบโตเป็น 562 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2032
Source: Fortune Business Insights, Forrester, Gartner, IDC
กองทุน LHCYBERRMF ความเสี่ยงระดับ 6 – เสี่ยงสูง

ถึงเวลาลงทุนในความปลอดภัย พร้อมประหยัดภาษี กับกองทุน LHCYBERRMF (กองทุนเปิด แอล เอช โกลบอล ไซเบอร์ ซีเคียวริตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ) ความเสี่ยงระดับ 6 – เสี่ยงสูง
LHCYBERRMF กองทุนประเภท Feeder Fund ลงทุนกองทุนหลัก First Trust Nasdaq Cybersecurity UCITS ETF (CIBR) ซึ่งเป็นกองทุน ETF ชั้นนำด้าน Cybersecurity
✅ เน้นลงทุนในหุ้นบริษัททั่วโลกที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับความปลอดภัยทางไซเบอร์ ครอบคลุมทั้งระบบนิเวศ ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐาน ผู้นำแฟลตฟอร์ม และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง
✅ มีกลยุทธ์การลงทุนมุ่งเน้นการสร้างโอกาสเติบโตในธีม Thematic Growth โดยจับโอกาสจากกระแส AI และ Zero Trust
✅ มีการคัดเลือกหุ้นตามเกณฑ์ที่เข้มงวดของดัชนีอ้างอิง The Nasdaq CTA Cybersecurity Index™ เพื่อติดตามผลการดำเนินงานของบริษัทในระบบนิเวศ Cybersecurity โดยเฉพาะ และใช้วิธีถ่วงน้ำหนักแบบ Modified Market-Cap Weighting เพื่อให้น้ำหนักกับริษัทที่มีบทบาทในอุตสาหกรรม ขณะเดียวก็จำกัดน้ำหนักของหุ้นเพื่อลดความเสี่ยงกระจุกตัว
นอกจากนี้ กองทุนหลักมีผลการดำเนินงานแข็งแกร่ง โดยได้รับการจัดอันดับ Morningstar ระดับ 4 ดาว สำหรับระยะเวลา 5 ปี
ผลตอบแทนย้อนหลังเฉลี่ยต่อปีของกองทุนหลัก

กองทุนหลัก First Trust Nasdaq Cybersecurity UCITS ETF มีผลตอบแทนย้อนหลังเฉลี่ยต่อปี (Annualized Return) โดดเด่นอย่างเห็นได้ชัด
- ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี > 27.5%
- ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปี > 25.4%
- ผลตอบแทนย้อนหลัง 5 ปี > 17.5%
Source: First Trust Nasdaq Cybersecurity ETF, Bloomberg as of 27 October 2025
หุ้น 10 อันดับแรก ในพอร์ตกองทุนหลัก First Trust Nasdaq Cybersecurity UCITS ETF (CIBR)

1. Broadcom
ผู้พัฒนาและจำหน่ายเซมิคอนดักเตอร์ และซอฟต์แวร์โครงสร้างพื้นฐาน มีการเติบโตในตลาดเซมิคอนดักเตอร์และซอฟต์แวร์อย่างต่อเนื่อง
2. Cisco Systems
ผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่ายและโซลูชันการสื่อสารสำหรับองค์กร เป็นบริษัทที่มีความมั่นคงและมีส่วนแบ่งในตลาดสูง
3. Palo Alto Networks
ผู้ให้บริการโซลูชันความปลอดภัยเครือข่ายและคลาวด์สำหรับองค์กร เป็นผู้นำในตลาดความปลอดภัยทางไซเบอร์ มีการเติบโตต่อเนื่อง
4. CrowdStrike
ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มความปลอดภัยไซเบอร์แบบคลาวด์เนทีฟ เน้นป้องกันภัยคุกคามและการละเมิดข้อมูล มีการเติบโตรวดเร็วในตลาดความปลอดภัยทางไซเบอร์
5. Infosys
บริษัทที่ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและบริการเอาท์ซอร์สระดับโลก มีการเติบโตในบริการดิจิทัลและเทคโนโลยีต่อเนื่อง
6. Cloudflare
ผู้ให้บริการเครือข่ายขนาดใหญ่ทั่วโลก (CDN) เพื่อช่วยให้เว็บไซต์และแอปพลิเคชันทำงานได้เร็วขึ้น และปลอดภัยจากการโจมตี
7. Leidos
บริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านไอที, วิศวกรรม และการป้องกันประเทศ ครอบคลุมโครงสร้างพื้นฐานไอที, Cybersecurity และ AI/Analytics
8. CyberArk Software
ทำธุรกิจเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยให้กับ Privileged Access & Identity Security ซึ่งเปรียบเสมือน “กุญแจ
มาสเตอร์ ” ของระบบทั้งหมดในองค์กร
9. Gen Digital
เจ้าของแบรนด์ซอฟต์แวร์ความปลอดภัยไซเบอร์ชื่อดัง เช่น Norton, Avast, LifeLock และ Avira
10. Zscaler
ผู้ให้บริการโซลูชันความปลอดภัยบนคลาวด์และ Zero Trust มีการเติบโตในตลาดความปลอดภัยบนคลาวด์
Source: Financial Time Data as of October 2025
สรุปความน่าสนใจของ Cybersecurity

หากสนใจกองทุน LHCYBERRMF (ความเสี่ยงระดับ 6 – เสี่ยงสูง) ที่เน้นลงทุนในหุ้นบริษัททั่วโลกที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับความปลอดภัยทางไซเบอร์ พร้อมสิทธิ์ลดหย่อนภาษีปี 2568
👉 สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.lhfund.co.th/MutualFund/FundDetail/LHCYBERRMF
ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน เนื่องจากกองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือ ได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ ผลการดำเนินงานในอดีต ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน ไม่ได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ติดตามบทความอื่น ๆ อีกมากมายได้ที่ www.finspace.co
ติดตามเรื่องราวการเงินที่จะมาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เป็นคุณก่อนใครได้ที่
Facebook : FinSpace
Instagram : http://bit.ly/2ktv2o7
X : http://bit.ly/2keFfVD
Blockdit : https://bit.ly/37EWqmb
กลุ่มความรู้นักลงทุน: http://bit.ly/3clAwZ2
กลุ่มพัฒนาตัวเอง: http://bit.ly/3ejPXn
