FinSpace

ธี่ทำงานมาทั้งปี ต้องจ่ายภาษีนะรู้ยัง ?

ต้องคำนวณภาษียังไง 1200x628 3

เงินทองของใกล้ตัว l ถึงจะมีหลวงพ่อโป้งเบอร์ 12 และต่อให้มีตะกรุดต่อยผี สุดท้ายก็ต้องกลับมาจ่ายภาษีอยู่ดี

ช่วงท้ายปีเหมือนว่ามีอะไรวนเวียนอยู่รอบตัว …แต่พอมาคิดๆ ดูอีกที “ภาษี” นี่เอง แต่จะแกล้งทำเป็นมองไม่เห็น ไม่ได้ยิน ก็กลัวจะโดนเช็กบิลย้อนหลัง

Advertisements

ถึงเวลาสำหรับมนุษย์เงินเดือน ที่ต้องเริ่มวางแผนภาษีกันแล้ว เราลองมาคำนวณคร่าวๆ กันว่า ที่ทำงานมาทั้งปี จะต้องเสียภาษีเท่าไหร่ ?

เพราะในเมื่อหลีกเลี่ยงภาษีไม่ได้ แต่เลือกที่จะวางแผนและหาตัวช่วยลดหย่อนภาษีได้ครับ

ใครบ้างต้องยื่นภาษี ?

ต้องคำนวณภาษียังไง 3 1

ลบล้างความเชื่อผิด ๆ ว่า “ยื่นภาษี” เท่ากับ “เสียภาษี” … แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่

แม้ว่ารายได้จะมีไม่ถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษี แต่ถ้ามีรายได้ขั้นต่ำตามที่กฎหมายกำหนด “ต้องยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา” แบ่งเป็น

1. คนโสด

  • ต้องมีรายได้เงินเดือนปีละ 120,000 บาทขึ้นไป หรือรายได้อื่น ๆ ปีละ 60,000 บาทขึ้นไป

2. คนมีคู่

  • ต้องมีรายได้จากเงินเดือนปีละ 220,000 บาทขึ้นไป หรือรายได้อื่นๆ ปีละ 120,000 บาทขึ้นไป

สรุป ถ้าใครมีรายได้ตามที่กฎหมายกำหนด มีหน้าที่ต้องยื่นภาษีแม้ว่าจะไม่เสียภาษีก็ตาม

เรื่องภาษีฉบับมนุษย์เงินเดือน 

ต้องคำนวณภาษียังไง 4

ไกด์ไลน์ (คู่มือ) เรื่องภาษี ฉบับมนุษย์เงินเดือน แบ่งเป็น 4 ข้อ เพื่อให้เห็นภาพรวมคร่าว ๆ ก่อนลงลึก …

1. วิธีคำนวณหาเงินได้สุทธิ
2. เทียบอัตราภาษีที่ต้องจ่ายแบบขั้นบันได
3. รายได้เท่านี้ ต้องจ่ายภาษีเท่าไหร่ ?
4. ตัวช่วยลดหย่อนภาษี ปี 2567 มีอะไรบ้าง ?

1. วิธีคำนวณหาเงินได้สุทธิ

ต้องคำนวณภาษียังไง 5

เริ่มแรกเราต้องหา “เงินได้สุทธิ” เพราะเป็นส่วนที่เราจะนำมาเป็นฐานเพื่อคิดภาษีที่ต้องจ่าย โดยให้เรานำรายได้ตลอดทั้งปี มาหักลบค่าใช้จ่ายตามประเภทของรายได้ และหักลดหย่อนภาษีตามรายการต่าง ๆ โดยใช้สูตร

รายได้ทั้งปี – ค่าใช้จ่าย – ค่าลดหย่อน = เงินได้สุทธิ

  • รายได้ทั้งปีคือรายได้ทั้งหมดที่เราได้รับตลอดปีนั้น ๆ เช่น เงินเดือน, โบนัส รายได้เสริม, ขายของ, เงินปันผล และอื่น ๆ 
  • ค่าใช้จ่ายเปรียบเสมือนต้นทุนสำหรับการทำงานหาเงินของเรา โดยสามารถหักค่าใช้จ่ายได้ 50% แต่ไม่เกิน 100,000 บาท
  • ค่าลดหย่อน : สิทธิประโยชน์ที่ช่วยให้เราเสียภาษีน้อยลง หรือได้รับเงินภาษีคืนเพิ่มขึ้น โดยค่าลดหย่แนที่สามารถนำมาหักได้ทันที คือ ค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท และค่าประกันสังคมที่จ่ายตามจริงสูงสุด 9,000 บาท

ตัวอย่าง
480,000-100,000-60,000-9,000= 311,000 บาท

สรุปเงินได้สุทธิ = 311,000 บาท

Advertisements

2. เทียบอัตราภาษีที่ต้องจ่ายแบบขั้นบันได

ต้องคำนวณภาษียังไง 6

หลังจากรับรู้เงินได้สุทธิของตัวเองแล้ว ให้เอามาเทียบอัตราภาษีที่ต้องจ่ายตามตารางนี้ แทนค่าโดยใช้สูตร

[(เงินได้สุทธิ – เงินได้สุทธิสูงสุดของขั้นก่อนหน้า) x อัตราภาษี] + ภาษีสะสมสูงสุดของขั้นก่อนหน้า = ภาษีที่ต้องจ่าย

ยกตัวอย่าง
สมมติว่ามีเงินได้สุทธิ 311,000 บาท เท่ากับต้องเสียภาษีอัตราสูงสุดที่ 10% โดยจะมีวิธีคำนวณภาษีในแต่ละขั้น ดังนี้

[(311,000 – 300,000)x10%]+7,500 บาท = 8,600 บาท
สรุปภาษีที่ต้องจ่าย = 8,600 บาท

ปล.ถ้ามีเงินได้สุทธิไม่เกิน 150,000 บาท จะได้รับการยกเว้นภาษี 

3. รายได้เท่าไหร่ต้องจ่ายภาษี ?

ต้องคำนวณภาษียังไง 7

จากตารางจะเห็นได้ชัดว่า ยิ่งเงินได้สูงเท่าไหร่ อัตราภาษีก็จะยิ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ เท่านั้น

ดังนั้น การวางแผนภาษีตั้งแต่เนิ่น ๆ ด้วยการหาตัวช่วยมาหักลดหย่อนภาษี ก็จะทำให้เงินได้สุทธิลดลง ประหยัดภาษีได้ยิ่งขึ้น หรือหากระหว่างปีเราถูกบริษัทหักภาษี ณ ที่จ่ายเอาไว้แล้วส่วนหนึ่ง ก็จะมีโอกาสได้รับเงินภาษีคืนอีกด้วย

4. ตัวช่วยลดหย่อนภาษี ปี 2567 มีอะไรบ้าง ?

ต้องคำนวณภาษียังไง 8

กลุ่มที่ 1 ค่าลดหย่อนพื้นฐาน (ส่วนตัวและครอบครัว)

  • ค่าลดหย่อนส่วนตัว
  • ค่าลดหย่อนคู่สมรส
  • ค่าลดหย่อนบุตร
  • ค่าฝากครรภ์และทำคลอดบุตร
  • ค่าลดหย่อนบิดามารดา
  • ค่าลดหย่อนผู้พิการหรือทุพพลภาพ

กลุ่มที่ 2 ค่าลดหย่อนด้านการออมและการลงทุน

  • กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
  • กองทุน กบข. และกองทุนสงเคราะห์ครูเอกชน
  • กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.)
  • เงินสมทบกองทุนประกันสังคม
  • เบี้ยประกันชีวิต
  • เบี้ยประกันสุขภาพ
  • เบี้ยประกันสุขภาพบิดามารดา
  • เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ
  • ค่าซื้อหน่วยลงทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)
  • ค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF)
  • กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG)
  • เงินลงทุนธุรกิจ Social Enterprise (วิสาหกิจเพื่อสังคม)

Advertisements

กลุ่มที่ 3 ค่าลดหย่อนเพื่อบริจาค

  • เงินบริจาคทั่วไป
  • เงินบริจาคเพื่อสนับสนุนการศึกษา การกีฬา การพัฒนาสังคม สาธารณประโยชน์ และสถานพยาบาลรัฐ
  • เงินบริจาคพรรคการเมือง

กลุ่มที่ 4 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากนโยบายภาครัฐ

  • Easy e-Receipt 2567
  • ค่าลดหย่อนเที่ยวเมืองรอง 2567 (รอประกาศเป็นกฎหมาย)
  • ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อซื้อ เช่าซื้อ หรือสร้างอาคารที่อยู่อาศัย
  • ค่าสร้างบ้านใหม่ 2567-2568

แต่ละกลุ่มสามารถ ลดหย่อนได้เท่าไหร่กันบ้าง ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/finspace.co/posts/pfbid02mP6AePAQAoUFMCSqWp3BrY2Gb2p4bm2Tsa6XFnrgGBwepveVfUTCDC5y8nSFqJ3ol


ติดตามบทความอื่น ๆ อีกมากมายได้ที่ www.finspace.co
ติดตามเรื่องราวการเงินที่จะมาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เป็นคุณก่อนใครได้ที่
Facebook : FinSpace
Instagram : http://bit.ly/2ktv2o7
X : http://bit.ly/2keFfVD
Blockdit : https://bit.ly/37EWqmb
กลุ่มความรู้นักลงทุน: http://bit.ly/3clAwZ2
กลุ่มพัฒนาตัวเอง: http://bit.ly/3ejPXn

Advertisements

FinSpace

https://www.finspace.co/

"เรื่องราวการเงินที่จะมาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เป็นคุณ"

Related post

Advertisements