รีวิวกองทุนเปิด ยูไนเต็ด ไพรเวท อินฟราสตัคเจอร์ ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (UPINFRA-UI) เปิดโอกาสการลงทุนใน Private Infrastructure ที่สอดคล้องกับเมกะเทรนด์ทั่วโลก

*ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย | กองทุนรวมที่เสนอขายสำหรับผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษเท่านั้น | กองทุนรวมที่มีความเสี่ยงสูงหรือซับซ้อน
วันที่โลกกำลังเผชิญการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทั้งภาวะโลกร้อน การเปลี่ยนผ่านพลังงาน และโครงสร้างสังคมสูงวัย ความต้องการใช้โครงสร้างพื้นฐานกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่งบประมาณภาครัฐกลับตึงตัวมากขึ้นทุกที การลงทุนใน “โครงสร้างพื้นฐานนอกตลาด” จึงเป็นหนึ่งในโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจ
โครงสร้างพื้นฐานนอกตลาดคืออะไร
โครงสร้างพื้นฐานนอกตลาด (Private Infrastructure) คือ การลงทุนในบริษัทหรือโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่ได้จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (Non-Listed Company) ซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ทางเลือก (Alternative Asset Class) โดยครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น Data Center พลังงานและสิ่งแวดล้อม โครงข่ายการสื่อสาร หรือกลุ่มธุรกิจที่อยู่อาศัยสำหรับผู้เกษียณอายุ
ทำไมต้องลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานนอกตลาด
- ความผันผวนต่ำ และมีความสัมพันธ์กับสินทรัพย์ประเภทอื่น ๆ ต่ำ
- ความต้องการซื้อแข็งแกร่ง แม้ในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว เนื่องจากมีคู่แข่งเข้ามาแข่งขันได้ยาก ซึ่งช่วยรักษาความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาด
- ได้ประโยชน์จากภาวะเงินเฟ้อ สินทรัพย์โครงสร้างพื้นฐานส่วนใหญ่มีความเชื่อมโยงกับภาวะเงินเฟ้อ ผ่านกฎระเบียบ ข้อตกลงสัมปทาน หรือสัญญาที่กำหนดให้รายได้อาจเพิ่มขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อได้
- ความเสี่ยงของสินทรัพย์ค่อนข้างต่ำ โครงสร้างพื้นฐานนอกตลาดเป็นประเภทสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ โดยมีระยะเวลาการลงทุนที่ยาวนานกว่าการลงทุนทางเลือกอื่น
Source : Preqin
4 เหตุผลที่ทำให้โครงสร้างพื้นฐานนอกตลาดน่าลงทุนตอนนี้
- การลงทุนยังขาดแคลน (Underinvested) การลงทุนในกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานยังค่อนข้างต่ำกว่าความต้องการใช้งาน
- ประเด็นทางภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics Issue) ประเทศพัฒนาแล้วมีแนวโน้มพึ่งพาการผลิตในประเทศและประเทศข้างเคียง ทำให้ความต้องการใช้โครงสร้างพื้นฐานเพิ่มขึ้น
- หนี้สาธารณะภาครัฐสูง (High Government Debt) ทำให้คาดว่าการลงทุนภาคเอกชนจะเป็นฟันเฟืองสำคัญ
- รายได้ปรับตามเงินเฟ้อ (Inflation Linked) รายได้มีแนวโน้มเชื่อมโยงกับภาวะเงินเฟ้อ ทำให้มีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ดีบนทิศทางเงินเฟ้อคงตัว
Source : UOBAM, Preqin
โลกต้องการโครงสร้างพื้นฐาน แต่เงินลงทุนยังไม่เพียงพอ

จากข้อมูลของ EQT ณ ปี 2025 โลกกำลังเผชิญกับช่องว่างการลงทุน (Investment Gap) มูลค่ามหาศาล โดยเฉพาะในประเทศพัฒนาแล้วอย่างสหรัฐอเมริกาและยุโรป ที่ภาครัฐมีงบประมาณตึงตัว ขณะที่ความต้องการใช้โครงสร้างพื้นฐานเพิ่มสูงขึ้นตามการขยายตัวของเมือง การเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างประชากร และการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดเพื่อลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล
สิ่งเหล่านี้ล้วนสอดคล้องกับเมกะเทรนด์สำคัญของโลก เช่น ภาวะโลกร้อน การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล การเติบโตของชนชั้นกลาง และความต้องการบริการสาธารณสุขที่เพิ่มขึ้น โดยคาดการณ์ว่าเม็ดเงินลงทุนในอีก 30 ปีข้างหน้ามีโอกาสสูงถึง 275 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั่วโลก
เจาะลึก UPINFRA-UI เปิดโอกาสการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานนอกตลาด ที่สอดคล้องกับเมกะเทรนด์ทั่วโลก
*ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย | กองทุนรวมที่เสนอขายสำหรับผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษเท่านั้น | กองทุนรวมที่มีความเสี่ยงสูงหรือซับซ้อน
กองทุนเปิด ยูไนเต็ด ไพรเวท อินฟราสตรัคเจอร์ ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย หรือ UPINFRA-UI เป็นกองทุนที่ออกแบบมาสำหรับผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษ (UI Fund) เท่านั้น และห้ามขายแก่ผู้ลงทุนรายย่อย กองทุนนี้จัดอยู่ในระดับความเสี่ยง 8+ เสี่ยงสูงมากอย่างมีนัยสำคัญ
กองทุน UPINFRA-UI เป็นกองทุนประเภท Feeder Fund ที่มีกองทุนหลักคือ EQT Nexus Fund SICAV – ENIF (Class I EUR-Z) กองทุนหลักนี้ลงทุนทั้งทางตรงและทางอ้อมในสินทรัพย์ประเภท Private Assets (สินทรัพย์นอกตลาด) ที่ไม่ได้จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์
ทั้งนี้ กองทุน UPINFRA-UI ไม่มีดัชนีชี้วัดผลการดำเนินงาน เนื่องจากกองทุนหลักไม่มีดัชนีชี้วัดผลการดำเนินงานและลงทุนใน Private Assets
กลยุทธ์การลงทุนของกองทุนหลัก EQT Nexus Fund SICAV – ENIF (Class I EUR-Z)
กองทุนหลักเป็นกองทุนเปิดที่มุ่งเน้นการสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมกับความเสี่ยงและการเติบโตของเงินทุนในระยะกลางถึงระยะยาว โดยมีการจัดสรรการลงทุนใน 3 ส่วนคือ
- การลงทุนในกองทุน (Fund Investments) ลงทุนในกองทุนโครงสร้างพื้นฐานของ EQT และบางกรณีอาจลงทุนในตลาดรองเพื่อเข้าถือครองผลประโยชน์ที่มีอยู่ในกองทุนโครงสร้างพื้นฐานของ EQT ที่จัดตั้งขึ้น
- การร่วมลงทุน (Co-Investments) ร่วมลงทุนกับกองทุน EQT ในสินทรัพย์อย่างน้อย 1 สินทรัพย์หรือมากกว่า โดยกระจายการลงทุนไปยังแต่ละกลยุทธ์ที่มุ่งเน้น (Focused Strategies) ของกองทุนโครงสร้างพื้นฐานของ EQT
- ส่วนลงทุน/ถือครองสินทรัพย์สภาพคล่อง (Liquidity Sleeve) ลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในและนอกตลาด รวมถึงเงินสดหรือหลักทรัพย์อื่นใดประมาณ 20% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนหลัก เพื่อบริหารสภาพคล่อง
นอกจากนี้ กองทุนหลักยังบริหารจัดการโดย EQT Fund Management S.àr.l. ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานนอกตลาดกลุ่มสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยมีประสบการณ์การลงทุนในสินทรัพย์นอกตลาดมาตั้งแต่ปี 1994 และในกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานมาตั้งแต่ปี 2008 ทั้งนี้ EQT ก่อตั้งโดยตระกูล Wallenberg ซึ่งมีประวัติการลงทุนในธุรกิจอุตสาหกรรมมานานกว่า 100 ปี
คำเตือน ผลการดำเนินงานในอดีต/ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
Top 10 Holdings
(ข้อมูล ณ เดือนเมษายน 2025 สัดส่วนการลงทุนอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนหลัก)

กองทุนกระจายการลงทุนในหลากหลายกลยุทธ์และอุตสาหกรรม ได้แก่ พลังงานและสิ่งแวดล้อม, การเดินทางและการขนส่ง, ดิจิทัล, และสังคม โดยตัวอย่าง 10 อันดับแรกของสินทรัพย์ที่ลงทุน (ณ เมษายน 2025) ได้แก่
1. OX2 (สวีเดน) บริษัทด้านพลังงานหมุนเวียน ซึ่งลงทุนในพลังงานลม โซลาร์ฟาร์ม และระบบสำรองพลังงานในกลุ่มประเทศนอร์ดิก (เดนมาร์ก, ฟินแลนด์, ไอซ์แลนด์, นอร์เวย์ และสวีเดน)
2. Universidad Europea (สเปน) แพลตฟอร์มการศึกษาระดับอุดมศึกษาของเอกชนในสเปนและโปรตุเกส
3. Madison Energy Infrastructure (สหรัฐฯ) ธุรกิจบริหารจัดการโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่
4. Calisen (สหราชอาณาจักร) ผู้นำด้านสมาร์ทมิเตอร์ในอังกฤษ ซึ่งช่วยในการจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
5. Radius Global Infrastructure (สหรัฐฯ) ผู้จัดการโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล เช่น เสาส่งสัญญาณและระบบเครือข่าย
6. Reworld (สหรัฐฯ) ธุรกิจจัดการของเสียและโซลูชันด้านสิ่งแวดล้อม
7. SK Shieldus (เกาหลีใต้) ให้บริการด้านความปลอดภัยทั้งระบบ Physical และ Cyber Security
8. Lazer Logistics (สหรัฐฯ) ให้บริการขนส่งโลจิสติกส์ขนาดใหญ่ โดยเฉพาะ Trailer Services
9. Statera (สหราชอาณาจักร) ผลิตและให้บริการพลังงานไฟฟ้าแบบยืดหยุ่น เพื่อตอบสนองต่อความต้องการพลังงานที่เปลี่ยนแปลงเร็ว
10. Arcwood (สหรัฐฯ) แพลตฟอร์มบริหารจัดการของเสียจากภาคอุตสาหกรรม มุ่งเน้นเศรษฐกิจหมุนเวียน
สรุปจุดเด่นกองทุน
กองทุน UPINFRA-UI โดดเด่นทั้งในด้านผลตอบแทนและการบริหารความเสี่ยง ด้วยการลงทุนในกองทุนหลักซึ่งลงทุนในธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต่อสังคม มีรายได้ค่อนข้างสม่ำเสมอ และมีความเชื่อมโยงกับเมกะเทรนด์ทั่วโลก
นอกจากนี้ สินทรัพย์นอกตลาดยังช่วยลดความผันผวน และรองรับแรงกดดันจากเงินเฟ้อได้ค่อนข้างดี จากโครงสร้างรายได้ที่ปรับตามต้นทุน
เมื่อนำมารวมกับแนวโน้มการขาดแคลนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก กองทุนนี้จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ลงทุนที่มองหาโอกาสลงทุนระยะยาวในสินทรัพย์ที่แตกต่างจากสินทรัพย์ในตลาดทั่วไป
ปัจจุบันกองทุน UPINFRA-UI เปิดเสนอขายหน่วยลงทุนชนิดรับซื้อคืนหน่วยลงทุนแบบปกติ ได้แก่
กองทุนเปิด ยูไนเต็ด ไพรเวท อินฟราสตรัคเจอร์ ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย หน่วยลงทุนชนิดรับซื้อคืนหน่วยลงทุนแบบปกติ (UPINFRA-UI-N)
ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.uobam.co.th/th/mutual-fund/00884/UPINFRA-UI-N
สอบถามข้อมูลและขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ. ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02-786-2222
คำเตือน
- ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
- การลงทุนในกองทุนรวมมิใช่การฝากเงินและไม่สามารถรับรองผลตอบแทนได้
- ผลการดำเนินงานในอดีต/ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็น
สิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต - การลงทุนในกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรก
- กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
- กองทุนนี้ลงทุนในต่างประเทศจึงมีความเสี่ยงที่ทางการของต่างประเทศอาจออกมาตรการในภาวะที่เกิดวิกฤตการณ์ที่ไม่ปกติ ทำให้กองทุนไม่สามารถนำเงินกลับเข้ามาในประเทศ ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้ลงทุนไม่ได้รับเงินคืนตามระยะเวลาที่กำหนด
- กองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในสินทรัพย์นอกตลาดที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน (Private Assets)
จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ดังนั้น ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย - กองทุนนี้เป็นกองทุนรวมสำหรับผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษเท่านั้น โดยกองทุนรวมนี้มีความเสี่ยงสูงหรือมีความซับซ้อน และไม่ถูกจำกัดความเสี่ยงด้านการลงทุนเช่นเดียวกับกองทุนรวมทั่วไป จึงเหมาะกับผู้ลงทุนที่รับผลขาดทุนระดับสูงได้เท่านั้น แม้ว่าผู้ลงทุนจะเคยมีประสบการณ์ในการลงทุนหรือทำธุรกรรมในผลิตภัณฑ์
ในตลาดทุนมาก่อน ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจถึงลักษณะความเสี่ยงและเงื่อนไขเฉพาะตัวของกองทุนรวมนี้และขอคำแนะนำเพิ่มเติมจาก บลจ. หรือผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืน (ถ้ามี) ก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง - กองทุนนี้มีค่าปรับกรณีขายคืนหน่วยลงทุนก่อนระยะเวลาถือครองที่กำหนด (Exit Fee) สำหรับการถือครองไม่ครบ 18 เดือน ในอัตราไม่เกินร้อยละ 5 ของมูลค่าหน่วยลงทุน