FinSpace

จุดจบสายหาร! เจาะเหตุผล ทำไม Netflix อยากให้คุณเลิกแชร์บัญชีกับคนอื่น?

Netflix

ข่าวล่าสุดที่เป็นฝันร้ายของสายหาร Netflix ก็คือการที่ทางแพลตฟอร์มระบุว่าจะไม่ให้ผู้ใช้ที่อยู่คนละบ้านหารบัญชีกันอีกต่อไป โดยเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ ทางบริษัทออกมาประกาศวิธีป้องกันการหารบัญชีกันโดยแจงว่าแต่ละบัญชีย่อยจะต้องมีการรับชมผ่าน WI-FI ที่เป็น IP เดียวกันอย่างน้อยทุก 31 วัน

นอกจากนี้ Netflix ยังงัดอีกหนึ่งท่าที่จะมาล่ายอด subscription เพิ่มนั่นก็คือ การปล่อยบัญชีราคาถูกแบบมีโฆษณาเพื่อขยายฐานลูกค้าเพิ่ม โดยบริษัทเริ่มพูดถึงเรื่องนี้มาตั้งแต่ช่วงต้นปีก่อน

Advertisements

ทำไม Netflix อยากให้เราเลิกแชร์บัญชีกับคนอื่น?

ก่อนหน้านี้ แม้แต่ตัวของรี้ด เฮสติ้งส์ ผู้เป็นอดีตซีอีโอยังแสดงออกถึงท่าทีลังเลในการลงไปลุยธุรกิจโฆษณาอยู่บ่อยครั้ง และที่สำคัญอีกอย่างคือ แม้ Netflix จะระบุเป็นข้อกำหนดดว่าบัญชีสำหรับใช้หลายคนมีไว้เพื่อใช้ในครอบครัวเท่านั้นแต่ทางแพลตฟอร์มก็ไม่ได้มีการบังคับอะไรเข้มงวดจนถึงช่วงที่ผ่านมา

คำถามก็คือว่า ทำไม Netflix ถึงตัดสินใจหันไปหาธุรกิจโฆษณาและจัดการการหารบัญชีแบบจริงจัง? ถ้าลองไปดูผลประกอบการในปีที่ผ่านมาก็อาจทำให้เราเห็นสิ่งที่เป็นหนึ่งในหลายสาเหตุของเรื่องนี้

หุ้นเทคแย่ แต่ Netflix แย่กว่า

ลองมาเช็กกันที่ภาพรวมก่อน แม้จะพูดได้ว่าปีที่ผ่านมาคือฝันร้ายของหุ้นเทคหลายตัว แต่สถานการณ์ของ Netflix พูดได้ว่าแย่ในแย่ คือในขณะที่ดัชนี NASDAQ ซึ่งเป็นเหมือนบ้านของหุ้นเทคร่วงลงไปราว 33% แต่ Netflix ทำมูลค่าบริษัทหล่นหายไปมากกว่านั้นคือราวๆ 53% หรือกว่า 1.4 แสนล้านเหรียญเลยทีเดียว

และถ้าเทียบกันในกลุ่ม FAANG (Facebook, Apple, Amazon, Netflix และ Google) Netflix คือหนึ่งในบริษัทที่สูญเสียมูลค่าไปมากที่สุด เป็นรองเพียง Facebook (Meta) ที่มูลค่าร่วงลงไปกว่า 65% 

มูลค่าของบริษัทในกลุ่ม FAANG ปี 2022 เมื่อเทียบกับช่วงต้นปี

  • Facebook (META): -65.25%
  • Netflix (NFLX): -52.83%
  • Amazon (AMZN): -50.19%
  • Google (GOOGL): -39.67%
  • Apple (AAPL): -26.77%

ปี 2022 มูลค่า Netflix ร่วงหนัก แถมสมาชิกลดครั้งแรกในรอบ 12 ปี

ถ้าลองมาเจาะดูผลประกอบการของ Netflix ในปีที่ผ่านมา ก็จะเห็นบริบทที่ชัดเจนขึ้น 

Advertisements

ปี 2022 แพลตฟอร์มมีรายได้เกือบ 3.2 หมื่นล้านเหรียญ (เติบโต 6.5% จากปีก่อนหน้า) แต่จุดสังเกตคือถ้านำรายได้ส่วนนี้มาหักลบกลบหนี้ทุกอย่างก็จะเหลือกำไรสุทธิราว 5.1 พันล้านเหรียญ นี่ยังเป็นเลขที่ใหญ่พอสมควร แต่ถ้าลองเทียบกับปีก่อนหน้าจะพบว่า กำไรตรงนี้ลดลงไปถึง -12.2%

ตัวเลขที่น่าจับตา (และเป็นตัวเลขสำคัญของ Netflix) คือยอด Subscriber หรือคนที่จ่ายเงินเพื่อมาดูคอนเทนต์บนแพลตฟอร์ม เพราะในไตรมาส 1 ของปี 2022 จำนวน Subscriber ลดลงกว่า 2 แสน ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี หลังจากจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนราคาหุ้นในขณะนั้นร่วงลงไปกว่า 35% ก่อนที่ในช่วงไตรมาส 2 จำนวนสมาชิกจะหายไปอีก 1 ล้านคน 

และต้องย้ำเตือนกันตรงนี้นิดนึงว่า Netflix มีการแง้มๆ ว่าจะให้เลิกหารบัญชีและสร้างบัญชีแบบมีโฆษณามาตั้งแต่ช่วงไตรมาสแรกของปี 2022 ซึ่งเป็นช่วงเดียวกันกับที่มีข่าวร้ายออกมา

Netflix กลับมาสตาร์ทสวยในปี 2023

ยังดีที่ในช่วงครึ่งหลังของปีจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นถึง 10 ล้านคน ทำให้ล่าสุด Netflix มีสมาชิกเกือบ 231 ล้านคน นอกจากนี้ ตั้งแต่เริ่มปี 2023 หุ้นของ Netflix ก็ทะยานกลับมาแล้วถึง 22.5%

Advertisements

ทั้งนี้ ชัดเจนว่าแผนการทั้ง 2 อย่างของ Netflix เป็นการดิ้นรนเพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติม โดยทางบริษัทแถลงในช่วงการประกาศผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2022 ว่า การเก็บเงินเพิ่มเติมสำหรับการหารบัญชีนอกบ้านและการปล่อยแผน Subscription แบบมีโฆษณา เป็นหนทางที่ชัดเจนเพื่อเร่งให้รายได้เติบโต และยังบอกอีกด้วยว่าจะนำรายได้ดังกล่าวไปลงทุนในคอนเทนต์และพัฒนาบริการให้ดีขึ้น

Netflix

อ้างอิง


ติดตามบทความอื่น ๆ อีกมากมายได้ที่ www.finspace.co
ติดตามเรื่องราวการเงินที่จะมาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เป็นคุณก่อนใครได้ที่
Facebook : FinSpace
LINE Official : http://bit.ly/2qL8S48
Twitter : http://bit.ly/2keFfVD
Instagram : http://bit.ly/2ktv2o7
Blockdit : https://bit.ly/37EWqmb
กลุ่มความรู้นักลงทุน: http://bit.ly/3clAwZ2
กลุ่มพัฒนาตัวเอง: http://bit.ly/3ejPXnk
กลุ่มคริปโต บิทคอยน์ NFT:  https://bit.ly/3J8LS1W

Advertisements

FinSpace

https://www.finspace.co/

"เรื่องราวการเงินที่จะมาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เป็นคุณ"

Related post

Advertisements