FinSpace

เฟ้นหาหุ้นเติบโตหลังวิกฤติโลก … “มองหาหุ้นผิดราคา เพื่อลงทุนในระยะกลาง”

มองหาหุ้นผิดราคา-เพื่อลงทุนในระยะกลาง

ในห้วงที่เป็นภาวะวิกฤติ อะไรๆ ก็ดูย่ำแย่ไปหมด ไม่ว่าจะเป็น ภัยแล้ง โรคไข้หวัดอู่ฮั่น สถานการณ์สงครามยูเครน ค่าเงินบาทแข็งค่ากระทบการส่งออก ตลาดหุ้นตกต่ำ ทำให้ดูไม่น่าลงทุนเป็นอย่างมาก

แต่ในภาวะวิกฤติแบบนี้สิ่งที่กำเนิดเกิดขึ้นมาก็คือ “หุ้นที่ผิดราคา” ซึ่งการเกิดขึ้นของหุ้นผิดราคานั้นไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ อาจเกิดเฉพาะช่วงวิกฤติแบบนี้ สำหรับคนที่มองภาพออก นี่คือโอกาสในการลงทุนครั้งใหญ่ … แต่หุ้นที่ผิดราคาจะมีลักษณะแบบใดบ้าง ไปติดตามกันครับ..

Advertisements

📌 อย่างแรก … “PE กับกำไรไม่สัมพันธ์กัน ทำให้หุ้นผิดราคา”

หากเราสามารถคำนวณได้ว่า กำไรต่อหุ้นจะเติบโต แต่ PE ยังต่ำ นี่คือโอกาสการลงทุน ยกตัวอย่างเช่น หุ้นที่มีกำไรเติบโต 20% ต่อปี แต่พีอีต่ำแค่ 5 เท่า โดยปัจจุบันหุ้นอสังหาริมทรัพย์บางตัว พีอีปัจจุบันต่ำมาก เนื่องจากกำไรหดตัวจากภาวะเศรษฐกิจ และมาตรการณ์รัฐ ที่ต้องการสกัดฟองสบู่ในอสังหาริมทรัพย์ แต่หากกิจการกลับมาขาย และทำให้กำไรเติบโต ราคาหุ้นจะโตเร็วมาก.

📌 อย่างที่สอง … “PBV ไม่สัมพันธ์กับ ROE ทำให้หุ้นผิดราคา”

PBV คือ ราคาต่อมูลค่าทางบัญชี ส่วน ROE คือ อัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น อัตราส่วนทั้งสองมีความสัมพันธ์ และควรจะไปในทิศทางเดียวกันถ้าเราพบเจอกับหุ้นที่ ROE เติบโต หรือ ROE มีค่าสูงมาก ๆ ในขณะที่ PBV ยังต่ำ แสดงว่าเราเจอกับหุ้นผิดราคาเช่นกันครับ หุ้นลักษณะนี้ค่อนข้างจะหายาก แต่ขอยกตัวอย่างเช่น หุ้นเดินเรือ ที่ในช่วงวัฏจักรขาลง ราคาจะตกลงต่ำมาก ๆ จน PBV ต่ำ ในปัจจุบันหุ้นเดินเรือบางตัวมี PBV ต่ำกว่า 0.5 เท่า !แต่หากเป็นช่วงวัฏจักรกลับมาเป็นขาขึ้น ROE จะเติบโตอย่างรวดเร็ว และนั่นจะทำให้หุ้น PBV ต่ำ ๆ ตอนนี้ กลายเป็นหุ้นผิดราคาไป คือ ราคาถูกเกินไป ถ้าตลาดปรับ PBV ใหม่ อาจเพิ่มเป็น 1 เท่า ราคาหุ้นก็สามารถปรับขึ้นได้อย่างน้อย 1 เท่าตัว.

📌 อย่างที่สาม … “PSR Vs อัตรากำไรสุทธิ”

PSR คือ Prize/Sale หรือ การนำเอา ขนาดกิจการมาหารด้วยยอดขาย ถ้า > 1 แสดงว่าหุ้นราคาแพง ถ้าต่ำกว่าแสดงว่าหุ้นอาจจะผิดราคา แต่สำหรับหุ้นเติบโต PSR อาจต้องสูงได้บ้าง แต่ก็ไม่ควรเกิน 3 เท่าเมื่อเราเจอหุ้นที่ PSR ต่ำ แต่ % Net Margin สูง … เข้าข่ายว่าเราเจอหุ้นผิดราคา ยกตัวอย่างเช่น กิจการที่มียอดขายสูงมาก เช่น ผู้ผลิตกระเบื้องเซรามิกที่มียอดขายเป็นหมื่นล้าน แต่มีกำไรแค่หลักร้อยล้าน ในขณะที่ขนาดกิจการต่ำกว่า 1 เท่า โดยที่คู่แข่งมียอดขายต่ำกว่า แต่ทำกำไรได้เป็นพันล้าน แบบนี้ถ้าเราเข้าไปขุดพบว่า มันเกิดจากต้นทุนที่สูงเกินจริง และมีการลดต้นทุนจริงจังจนประสบผลสำเร็จ ราคาหุ้นก็จะกลับมาได้ จากที่เคยผิดราคา.

📌 อย่างสุดท้าย … “EV/EBITDA กับการลงทุน”

EV/EBITDA คือ การนำเอาขนาดกิจการทั้งหมดบวกกลับด้วยหนี้สินทั้งหมด หักออกด้วยเงินสด และหารด้วยกำไรขั้นต้นถ้าค่านี้ต่ำมาก ๆ แสดงว่าหุ้นมีราคาถูก เราจะพบค่านี้ต่ำ ๆ ในช่วงที่กิจการเข้าสู่เฟสการลงทุน ทำให้ต้นทุนเพิ่ม และกำไรหดหาย ราคาหุ้นจึงปรับลงมา หากเราพบว่า หุ้นกำลังหมดเฟสการลงทุน และเริ่มเข้าสู่เฟสเก็บเกี่ยวแล้ว ค่านี้ยังต่ำอยู่ แสดงว่าเราเจอหุ้นผิดราคาครับ.

Advertisements

📌 ข้อสรุป และข้อคิดก็คือ

การลงทุนในหุ้นที่ผิดราคา หรือ Valuation Missing Prize นั้น หากเราหาหุ้นถูกตัวก็มีโอกาสที่เราจะได้หุ้นเป็นเด้ง ๆ เหมือนกันนะครับ แต่ถ้าเราคิดผิดบางทีเราก็ต้องยอมมอบตัว เพราะสิ่งที่คิดไม่ถูกต้องแบบชัดเจนแล้ว ก็หมดเหตุผลที่เราจะลงทุนต่อไปนั่นเองครับ #นายแว่นลงทุน


ติดตามบทความอื่น ๆ อีกมากมายได้ที่ www.finspace.co
ติดตามเรื่องราวการเงินที่จะมาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เป็นคุณก่อนใครได้ที่
Facebook : FinSpace
LINE Official : http://bit.ly/2qL8S48
Twitter : http://bit.ly/2keFfVD
Instagram : http://bit.ly/2ktv2o7
Blockdit : https://bit.ly/37EWqmb
กลุ่มความรู้นักลงทุน: http://bit.ly/3clAwZ2
กลุ่มพัฒนาตัวเอง: http://bit.ly/3ejPXnk
กลุ่มคริปโต บิทคอยน์ NFT: https://bit.ly/3J8LS1W

Advertisements

Advertisements

นายแว่น ลงทุน

คอร์สหุ้นออนไลน์ โดย "นายแว่นลงทุน" สนใจคลิก https://bit.ly/CourseNaiwaen

Related post

Advertisements