กองทุนไหนถือ Tesla มากที่สุด? ศึกษาจากการแกะ Factsheet
บทความโดย เด็กการเงิน DekFinance
การขึ้นของหุ้น Tesla ในหลายเดือนที่ผ่านมา ทำให้หลายคนอาจจะสงสัยว่ากองเทคของเรานั้น มีสัดส่วน Tesla มากน้อยแค่ไหน ?
ถ้ามีหุ้นดังกล่าวเยอะก็จะเป็นตัวเอกดันผลตอบแทนให้มากขึ้น ?
ในอีกทางหนึ่งก็กังวลว่ามูลค่าของหุ้นดังกล่าวมันขึ้นไปมากหรือยัง ?
อันที่จริงไม่มีใครตอบได้ แม้แต่ผจก.กองทุนเอง มูลค่าที่ขึ้นมา ผมคิดว่าคนให้ความสำคัญกับโปรเจคในอนาคตของ Elon Musk เช่น EV Car, SpaceX, Energy storage เป็นต้น
พูดง่ายๆ ว่าซื้อหุ้นเหมือนซื้อสมองของเค้านั่นเอง ! และตอนนี้ Elon Musk ก็เป็นคนที่รวยที่สุดในโลกไปแล้ว
วันนี้ผมได้มีโอกาสเข้าไปดู Factsheet ของ feeder fund กองเทค และ index หลายกอง เช่น TNEXTGEN, K-CHANGE, K-NASDAQ-A, B-FUTURE, ONE-UGG-RA, T-ESGINNO, PWIN
เพื่อดูว่ามี %holding หุ้น Tesla มากน้อยแค่ไหน แล้วนำมาคูณกับสัดส่วนที่กองในจดทะเบียนประเทศไทยมี position อยู่จริง พบว่ามี Top 5 ดังนี้
กองทุนที่ถือหุ้น tesla มากที่สุด (Top 5)
กองทุน | % Tesla Holding | รายละเอียด |
---|---|---|
KF-US | 9.92% | คลิก |
TNEXTGEN | 9.87% | คลิก |
T-ES-GINNO | 8.57% | คลิก |
K-CHANGE | 7.51% | คลิก |
ONE-UGG-RA | 7.45% | คลิก |
และยังมีอีกสองกองที่ถือ Tesla เกิน 5% คือ KT-WTAI-A (5.92%) และกอง index K-NASDAQ-A (5.38%)
แถม B-FUTURE (ที่มีสองกองแม่ เป็นจีนe-commerce และ US tech) ถืออยู่ 3.02%
นอกนั้นยังมีกองเทค หรือ index อื่นๆ ที่มี Tesla น้อยกว่า 2% หรือไม่ติด top ten (บอกได้ว่าไม่มี หรือมีน้อยมาก) เช่น B-INNOTECH, PWIN, KF-GTECH, PRINCIPAL GINNO-A, UNI, SCBS&P500
อย่างไรก็ดี โพสต์นี้ไม่ได้แนะนำการลงทุน กองทุนที่มี Tesla เยอะไม่ได้หมายความว่าจะมีผลตอบแทนที่มากขึ้นแต่อย่างใด เพียงแต่ชี้ให้เห็นว่า
- a) ถ้าเราคิดว่าการมีหุ้นดังกล่าวเป็นผลดีต่อกองทุนในระยะยาว หรือเป็นแฟนหุ้นตัวนี้ก็พิจารณาถือหรือซื้อเพิ่ม ในกองทุนดังกล่าวที่เป็น Aggressive Allocation คือเน้นกองทุนที่มีหุ้นดังกล่าวกระจุกตัว [ทดแทนการเปิดพอร์ท overseas ที่เป็นทางเลือกที่แพงหน่อยครับ]
- b) ถ้านักลงทุนเห็นว่ากองทุนนั้น มีสัดส่วน Tesla มากเกินไป ก็พิจารณาลดสัดส่วนลง หรือหากองทุนที่กระจายตัวกว่ากองทุนเทคที่ดูอยู่
- c) ผู้จัดการกองทุนในกอง active fund อาจจะมีการ rebalance หุ้น ให้มีหุ้นต่างๆ สัดส่วนขึ้นๆ ลงๆ อย่างไรก็ตามการที่มีหุ้นใดหุ้นหนึ่งมากเกินไป ก็อาจจะมีปัญหาในการ rebalance ได้เช่นกัน (คือมีหุ้นมากก็หมุนออกได้ยาก) ดังนั้น นักลงทุนอาจจะติดตามผลงาน และ factsheet ของกองทุนบ้างเป็นระยะครับว่าเค้าทำ aggressive allocation ใน sector หรือหุ้นตัวใดตัวหนึ่งมากแค่ไหน
- d) กองทุน index อย่าง NASDAQ ก็มีหุ้น Tesla ที่ qualify market cap เข้ามาอยู่ (5.38%) กอง S&P500 ของ SCB ก็เช่นกัน มีสัดส่วน Tesla อยู่ประมาณ 2%
อนึ่งกองทุนไม่ได้ออกแบบมาให้เทรดคล่องได้เหมือนหุ้นนะครับ
ดังนั้นระยะเวลาในการลงทุนควร มองระยะยาวและมากกว่า 3 เดือนขึ้นไป
เพื่อนๆ มีความคิดเห็นอย่างไรบ้างกับ Tesla ? มาแชร์กันครับ
ติดตามบทความอื่น ๆ อีกมากมายได้ที่ www.finspace.co
ติดตามเรื่องราวการเงินที่จะมาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เป็นคุณก่อนใครได้ที่
Facebook : FinSpace
LINE Official : http://bit.ly/2qL8S48
Twitter : http://bit.ly/2keFfVD
Instagram : http://bit.ly/2ktv2o7
Blockdit : https://bit.ly/37EWqmb